วิชาประวัติศาสตร์ไทย

บทที่1 ภูมิปัญญาไทย
ภูมิปัญญาไทย ตรงกับศัพท์ภาษาอังกฤษว่า Wisdom หมายถึง ความรู้ความสามารถ วิธีการผลงานที่คนไทยได้ค้นคว้า รวบรวม และจัดเป็นความรู้ ถ่ายทอด ปรับปรุง จากคนรุ่นหนึ่งมาสู่คนอีกรุ่นหนึ่ง จนเกิดผลิตผลที่ดี งดงาม มีคุณค่า มีประโยชน์ สามารถนำมาแก้ปัญหาและพัฒนาวิถีชีวิตได้แต่ละหมู่บ้าน แต่ละชุมชนไทย ล้วนมีการทำมาหากินที่สอดคล้องกับภูมิประเทศ มีผู้นำที่มีความรู้ มีฝีมือทางช่าง สามารถคิดประดิษฐ์ ตัดสินใจแก้ปัญหาของชาวบ้านได้ ผู้นำเหล่านี้ เรียกว่า ปราชญ์ชาวบ้าน หรือผู้ทรงภูมิปัญญาไทย 

ลักษณะภูมิปัญญาไทย

  1. 1. ภูมิปัญญาไทยมีลักษณะเป็นทั้งความรู้ ทักษะ ความเชื่อ และพฤติกรรม                             2. ภูมิปัญญาไทยแสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างคนกับคน คนกับธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และคนกับสิ่งเหนือธรรมชาติ
    3. ภูมิปัญญาไทยเป็นองค์รวมหรือกิจกรรมทุกอย่างในวิถีชีวิตของ
    คน                                   4. ภูมิปัญญาไทยเป็นเรื่องของการแก้ปัญหา การจัดการ การปรับตัว และการเรียนรู้ เพื่อความอยู่รอดของบุคคลชุมชน และสังคม
    5. ภูมิปัญญาไทยเป็นพื้นฐานสำคัญในการมองชีวิต เป็นพื้นฐานความรู้ในเรื่องต่างๆ
    6. ภูมิปัญญาไทยมีลักษณะเฉพาะ หรือมีเอกลักษณ์ในตัวเอง 7. ภูมิปัญญาไทยมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อการปรับสมดุลในพัฒนาการทางสังคม
การนำภูมิปัญญาไทยมาใช้ในชีวิตประจำวัน




ในการนำภูมิปัญญาในด้านต่างๆ มาพัฒนาเพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ อาทิเช่น ด้านการทำอาหาร ในการปรุง การเติมแต่งรสชาติของอาหารอย่างมีเสน่ห์หรือที่เรียกกันว่า เสน่ห์ปลายจวัก มีได้ผู้หญิง และผู้ชายแต่ส่วนมากจะมีในผู้หญิง เพราะผู้หญิงมีความอะเอียดอ่อนกว่าผู้ชาย ด้านการทักทอเครื่องนุ่งห่ม ในการจักทอสานเนื้อผ้าให้มีความสวยงาม มีลายเส้นหลากหลายแบบแต่เป็นไทย และมีความประณีตจึงกลายเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของประเทศไทย ด้านการสร้างบ้าน มีความคิดสร้างสรรค์ที่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศซึ่งประเทศไทยมี 3 ฤดู ช่น ฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูหนาวึ่งในแต่ละภาคแต่ละชุมชนจะมีความคิดไม่เหมือนกันตามสภาพอากาศของแต่ละชุมชน ด้านการประยุกต์ยารักษาโรคหรือสมุนไพรในภูมิภาคต่าง ทดลองพืชพันธุ์ต่างๆเพื่ออยากรู้สรรพคุณในแต่ละด้านแต่ละประเภทที่มีการนำภูมิปัญญาไทยมาใช้ให้เกิดเป็นประโยชน์ต่อส่นรวมและบุคคลทั่วไปตลอดจนเป็นข้อมูลต่อประโยชน์ในทางที่ดีและสาธารณะ เพื่อให้บุคคลภายนอกและภายในได้ศึกษาค้นคว้าและเพิ่มความรู้ต่อตนเองและเป็นประโยชน์ในบุคคลหมู่มาก  และด้านความสามัคคีทางศาสนาและการอนุรักษ์เพราะการนำภูมิปัญญาในด้านต่างๆ มาผสมผสานให้เข้ากับการนำมาประยุกต์และสอดคล้องกับภูมิปัญญาด้านต่างๆ จึงไร้คนหรือสัตว์ในการทดลอง เพราะเหตุนั้นสมุนไพรจึงได้มาอย่างยากลำบาก และมันได้ตกทอดมาจนถึงปัจจุบันนี้ ที่มียาที่สกัดจากสมุนไพรต่างๆ หรืออาจจะทำมาจากสารเคมีก็ได้ มาประกอบเพื่ออยากจะให้ทุกคนได้เห็นคุณค่ากับการนำภูมิปัญญามาใช้ในชีวิตประจำวัน ตลอดเรื่อยๆ มาจนถึงสังคมในปัจจุบัน ประเพณีไทยและศาสนาเพื่อจะได้มีสิ่งที่จะยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้คนเอาไว้ได้ ดังนั้นเราสามารถนำภูมิปัญญาไทยต่างๆ ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ในทางที่ดี


ภูมิปัญญาด้านอาหาร


ลักษณะเด่นของอาหารไทย คือ อาหารแต่ละชนิดจะมีคุณค่าทางอาหารครบทั้ง 5 หมู่ และส่วนประกอบของอาหารจะมีสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอยู่ด้วยเช่น ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ซึ่งการนำสมุนไพรมาเป็นส่วนประกอบของอาหารนี้จัดได้ว่าเป็นภูมิปัญญาด้านอาหารของอาหารไทย ตัวอย่างของอาหารที่มีสมุนไพรเป็นส่วนประกอบ ได้แก่ ต้มยำกุ้ง แกงเหลือง แกงไตปลา น้ำพริกอ่อง อ่อม และส้มตำ เป็นต้น นอกจากส่วนประกอบของอาหารแล้ว การตกแต่งอาหารอย่างสวยงาม ประณีต ก็เป็นภูมิปัญญาอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้อาหารดูน่ารับประทานยิ่งขึ้น เช่น การแกะสลักผักผลไม้ การประดิษฐ์รูปแบบของขนมให้สวยงาม เช่น ขนมลูกชุบ ขนมทองเอก ขนมจ่ามงกุฎ เป็นต้น การที่อาหารไทยมีคุณค่าทางโภชนาการและมีความสวยงาม จึงทำให้อาหารไทยได้รับความนิยมไปทั่วโลก

อาหารไทยแท้ คือ อาหารที่คนไทยคิดทำกันมาแต่โบราณ ส่วนมากเป็นแบบง่ายๆ เช่น ข้าวแช่ ต้มโคล้ง แกงป่า น้ำพริก และหลน เป็นต้น ส่วนขนมไทยแท้ก็ปรุงมาจากแป้ง น้ำตาล กะทิ เป็นส่วนใหญ่ เช่น ขนมเปียกปูน ขนมเปียกอ่อนตะโก้ ลอดช่อง ขนมปลากริมไข่เต่า ขนมใส่ไส้ และขนมครก เป็นต้น ส่วนมากไม่ใช้ไข่ ถ้าใช้มักจะเป็นขนมไทยที่รับมาจากชาติอื่น เป็นภูมิปัญญาของคนไทยซึ่งถึงถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่ ในยุคประวัติศาสตร์ อาหารแต่ละอย่างได้ผ่าน การคิดค้นขึ้นมาเพื่อให้เข้ากับภูมิอากาศ ภูมิประเทศในการหาวัตถุดิบในการประกอบ ปรุงอาหาร และยังมี คุณค่าทางโภชนาการ ถึงแม้ในอดีต คนไทยยังไม่มีวิวัฒนาการในด้านวิทยาศาสตร์ แต่ก็ได้มีความรู้เรื่องประโยชน์ในการนำวัตถุดิบมาประกอบอาหาร เพราะส่วนใหญ่วัตถุดิบที่ใช้ในการทำนั้น เป็นสมุนไพร ใช้ในการรักษา ป้องกันโรคต่างๆ ได้ ซึ่งในปัจจุบันวิทายการพัฒนาขึ้น ทางวิทยาศาสตร์ได้ศึกษา แล้วก็ลงความเห็นว่าเป็นเช่นดังที่คนสมัยก่อนเข้าใจ สิ่งนี่จึงเป็นที่เห็นได้ชัดว่า คนไทยมีภูมิปัญญาที่ไม่ด้อยกว่าใคร ดังนั้นการรับประทานอาหารไทยนั้นจึงมีประโยชน์อย่างมาก ในปัจจุบันชาวต่างชาติก็ได้หันมานิยมอาหารไทย เพราะติดใจในรสชาติที่เป็นไทยๆ ทั้งโภชนาการสูง  โดยส่วนใหญ่อาหารไทยจะมีวิธีการประกอบอย่างง่ายๆ และ ใช้เวลาในการทำไม่มากนัก โดยเฉพาะทุกครัวเรือนของคนไทย จะมีส่วนประกอบอาหารติดอยู่ทุกครัวเรือน ไม่ว่าจะเป็นพริก แห้ง กุ้งแห้ง น้ำปลา กะปิ ส้มมะขาม กระเทียม หัวหอม ตลอด จนปลาบ้าง รวมทั้งส่วนประกอบอาหารจำพวกผัก และเนื้อสัตว์ นานาชนิด เพราะมีวิธีนำมาประกอบที่มีด้วยกันหลายรูปแบบไม่ ว่าจะเป็น แกง ต้ม ผัด ยำ
เมนูอาหารไทยที่ขึ้นชื่อลือชาหลายชนิดจึงประกอบไปด้วยอาหารมากมายกว่า 255 ชนิด

ภูมิปัญญาด้านเครื่องนุ่งห่ม

 
เนื่องจากสภาพภูมิอากาศของประเทศไทยอยู่ในเขตร้อน คนไทยจึงมีภูมิปัญญาในการใช้เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มที่เหมาะสมกับอากาศและสภาพแวดล้อม เลือกใช้วัสดุที่สามารถถ่ายเทความร้อนได้ดี ได้แก่ ฝ้าย ไหม โดยการนำมาทอเป็นผืนเพื่อนุ่งห่มประกอบกับอุปนิสัยที่รักสวยรักงาม และมีความประณีต จึงได้มีการคิดค้นเทคนิคการทอ ลวดลายและการย้อมสี ให้มีความสวยงามโดดเด่น เช่น ฝ้าแพรวา เป็นผ้าทอด้วยเทคนิคจกและขิดหลายสีบนผืนผ้า ซึ่งถือได้ว่า เป็นภูมิปัญญาเกี่ยวกับเครื่องนุ่งห่มของไทย

ภูมิปัญญาด้านที่อยู่อาศัย 
ที่อยู่อาศัยของมนุษย์มีความสัมพันธ์กับพื้นที่ที่บุคคลอาศัยอยู่สภาพภูมิประเทศไทยมีทั้งที่ราบลุ่มฝั่งแม่น้ำการสร้างจึงจำเป็นต้องสร้างเป็นใต้ถุนสูง เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมขัง รูปแบบการสร้างบ้านในบริเวณที่ราบสูงและที่สูง จะมีหน้าต่างน้อย ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณที่สูงจะมีอากาศหนาวเย็น เมื่อสร้างบ้านมีหน้าต่างน้อย ลมก็พัดเข้าบ้านน้อยทำให้อุณหภูมิในบ้านอบอุ่นอยู่สบาย การสร้างบ้านตามชายฝั่งทะเล ซึ่งพื้นดินเป็นดินปนกับทราย จะใช้แท่งหินหรือคอนกรีตฝังลงในดิน ก่อนที่จะนำเสาบ้านมาวาง แล้จึงยึดเสาบ้านและแท่งหินไว้ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาที่ป้องกันบ้านทรุด นอกจากนี้ยังไม่นิยมสร้างบ้านถุนสูงการนำวัตถุต่างๆ มาประกอบเป็นรูปร่างของบ้าน ค่อยข้างจะใช้เวลแต่คนไทยเราก็ยังสามารถ สร้างเป็นรูปร่างของบ้านเสร็จสมบรูณ์ และเป็นที่อยู่อาศัยที่ดูแล้วมีความคงทนกับสภาวะสิ่งแวดล้อมรายรอบต่างๆ ได้ดี ตามลำดับและถาวร ทั้งนี้เพื่อป้องกันแรงจากลมพายุจะได้เห็นว่าการสร้างบ้านในแต่ละท้องถิ่น ได้แสดงถึงภูมิปัญญาของคนไทยในการสร้างที่อยู่อาศัยซึ่งสามารถแก้ไข้ปัญหาจากธรรมชาติที่อยู่รอบตนเองไดอย่างเหมาะสม  
 

ภูมิปัญญาด้านแพทย์แผนไทย


การแพทย์แผนไทยและเภสัชกรรม เป็นภูมิปัญญาตั้งแต่สมัยโบราณ ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บมักจะรักษาโดยใช้สมุนไพรแพทย์แผนไทยได้ถ่ายทอดภูมิปัญญา เช่น จารึกสรรพคุณยาและวิธีรักษาเป็นตำรายาของแต่ละท้องถิ่น ซึ่งสมุนไพรต่างๆที่นำมาเป็นยานี้ ถือได้ว่าเป็นภูมิปัญญาที่นอกจากการรักษาด้วยสมุนไพรแล้ว และยังมีการรักษาด้วยวิธีการนวด การประคบ การรักษาโรคด้วยวิธีนี้ทำให้โลหิตไหลเวียนสะดวกขึ้นเป็นการปรับสภาพร่างกายให้เกิดความสมดุลและยังทำให้ร่างกายรู้สึกสบายตัวสบายตัวมากขึ้น ไม่ทรมานต่อความเจ็บปวดเมื่อยร่างกายที่แสนจะยากลำบากในการเคลื่อนไหวของร่างกายของเราที่เกิดจากการเวลาเราเคลื่อนไหวรวดเร็วเกินไปจนทำให้ร่างกาย กระคูก กล้ามเนื้อ และเส้นเอ็น อาจจะเคลื่อนเข้าที่ผิดจากที่เดิมหรือหักหรือขาดไปได้ ซึ่งในโบราณเราใช้การนวด การเหยียบ การบีบ และการประคบสมุนไพร จนเป็นที่มาของภูมิปัญญาไทยในด้านแพทย์แผนไทย  


ภูมิปัญญาด้านคุณธรรมประจำชาติ 


 ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีกลุ่มชนหลายเชื้อชาติ ศาสนา แต่ละบุคคลเหล่านี้คือคนไทยที่อยู่ร่วมกันได้ โดยไม่มีปัญหาอันเกิดจากความขัดแย้งทางเชื้อชาติและศาสนา ทั้งนี้เพราะคนไทยเรามีขันติธรรมในการอยู่ร่วมกันทำให้คนไทยยอมรับในความแตกต่างทางเชื้อชาติ ศาสนา และวัฒนธรรมของคนกลุ่มต่างๆ ซึ่งขันติธรรมนี้ถือเป็นภูมิปัญญาที่สำคัญอย่างยิ่งที่ช่วยให้สังคมไทยมีความสงบสุข